ข้อดี-ข้อเสีย การทำงานแบบ hybrid ในสายงานไอทีสำหรับ Outsource

calendar

29 Feb 2024

view

14 views

hybrid working คือ

 

หลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่กระจายไปทั่วโลกเริ่มควบคุมได้ หลายๆบริษัทเริ่มให้พนักงานกลับเข้าสู่ ออฟฟิศ แต่บางบริษัทก็ผสมกับการทำงาน Work From Home หรือเรียกการ ทำงานแบบนี้ว่า  Hybrid working  ซึ่ง   Hybrid working คือ การทำงานที่ให้พนักงานเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ ผสมกับการทำงานแบบทำงานที่บ้าน เพื่อให้อิสระกับพนักงานมากขึ้นเเต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่าจะให้พนักงานเข้าออฟฟิศกี่วันและ Work From Home กี่วัน สำหรับบางคนก็เพิ่งจะเริ่มคุ้นเคยกับการทำงานในแนวนี้แต่ในสายงานไอทีอาจจะมีความคุ้นเคยกับการทำงานแนวนี้มาบางอย่างบางคนที่เป็น Outsource ก็มักจะมีบางคนที่ได้ทำงานแบบ Work From Home หรือ  Hybrid working มาก่อนหน้านี้เเล้วแต่แค่ยังไม่เป็นที่นิยมเเต่เมื่อมีเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 จึงทำให้รูปแบบการทำงานแนวนี้เป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น ทำให้หลายองค์กรต้องปรับตัวเพื่อเข้าสู่การทำงานในรูปแบบใหม่แต่บางองค์กรก็ไม่จำเป็นต้องปรับอะไรอันเนื่องมาจากมีการทำงานเเบบ Work From Home และ  Hybrid working มาก่อนแล้ว จะมีบริษัทไหนบ้างไปดูกันเลย

 

1.DELL

ใช้การทำงานแบบ Remote Working พร้อมกับข้อตกลงขอให้พนักงานถ่ายรูปกิจกรรมจากที่บ้าน

และมีโปรแกรมโดยเฉพาะ เพื่อให้พนักงานทำงานผ่านโปรแกรมนี้

2.Apple

โดยให้พนักงานเข้าออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์คือ วันจันทร์ วันอังคาร และวันพฤหัสบดี ส่วนอีก 2 วันคือ วันพุธ และวันศุกร์

ให้พนักงานทำงาน Remote Working

3.Microsoft

มีนโยบายการทำงานแบบไฮบริด และที่ Microsoft พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้แล้ว

4.Google

ให้เข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 3 วัน หรือจะเลือกทำงานจากที่ไหนก็ได้ 100% โดยไม่เข้าออฟฟิศอีกเลย

5.Twitter

พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ตลอดไป

6.Dropbox

ลดพื้นที่สำนักงานและเปลี่ยนพื้นที่ออฟฟิศให้เป็นห้องประชุมและ Co-working space

7.Uber

ให้พนักงานเข้าออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ และจากการสอบถามพนักงาน 2 ใน 3 ต่างก็ชื่นชอบการทำงานแบบไฮบริด

8.Facebook

พนักงานที่สามารถทำงานจากบ้านได้ ถ้าไม่อยากเข้าออฟฟิศมาทำงาน ก็ไม่ต้องเข้า แต่ขอให้ได้รับการอนุญาตจากหัวหน้างานก่อนส่วนใครที่โดยหน้าที่แล้วต้องเข้าออฟฟิศ ซึ่งเป็นส่วนน้อยก็ยังต้องเข้าออฟฟิศต่อไป

9.Spotify

มีตัวเลือก Remote Working ให้ 2 ทางด้วยกัน ได้แก่ 1) My Work Mode คือ Remote Working ได้ 100% จากที่ใดก็ได้  แต่ต้องเข้ามาออฟฟิศในวันที่มีงานสำคัญ 2) Location Choices คือ การสลับเข้ามาทำงานร่วมกับผู้อื่น

10.Amazon

ยืดหยุ่นดูตามความเหมาะสม โดยบริษัทมีนโยบายให้พนักงานทำงานในออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์

 

ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มบริษัทไอทีซะส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งแบบงานประจำและแบบเป็น IT Outsource ทำให้ใครที่อยากทำงานแบบ  Work From Home หรือ  Hybrid working มักจะหางานเกี่ยวข้องกับสายไอทีกัน

 

โดยการทำงานประเภทนี้มีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้างนะเราลองไปดูกัน

 

มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้างที่บริษัทควรจะต้องเตรียมรับมือให้พร้อม

ข้อดี

1. ยืดหยุ่นกว่าการเข้ามาทำงานทุกัน

2. อาศัยความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างน้อย

3. ตอบโจทย์ความยืดหยุ่นกับบางแผนกได้จริง

4. พนักงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

5. สามารถจ้างพนักงานได้ทั่วโลก (Globally + Locally)

6. ลดค่าใช้จ่ายของบริษัท

ข้อเสีย

1. การประสานงานระหว่างทีมเป็นเรื่องยากขึ้น

2. ไม่ใช่พนักงานทุกคนจะพร้อมทำงานในบ้านได้

3. อาจทำให้การพบปะเพื่อประชุมเป็นเรื่องยาก

งานไอทีสำหรับ Outsource ทำงานแบบไหนแล้วหางานยากไหม?

 

หลังจากที่เราได้รู้จักกับ hybrid working  กันแล้วในสายงานไอทีหลายคนก็สงสัย Outsource จะหางานไอทียากไหมโดยเฉพาะงานที่ทำแบบ hybrid working เราลองไปดูกันดีกว่าว่า Outsource จะหางานยากไหมแล้วมีวิธีการทำงานแบบไหนนะ การทำงานผ่านบริษัท Outsource จะเป็นการทำงานให้บริษัทต้นสังกัด โดยบริษัท outsource จะส่งเรซูเม่ของเราไปให้บริษัทลูกค้าต่างๆจากนั้นก็ให้ลูกค้าเป็นคนเลือกจากนั้นก็เริ่มการทำข้อสอบต่างๆตามที่ลูกค้ากำหนดเมื่อผ่านบริษัทก็จะส่งตัวเรา ไปประจำตามบริษัทลูกค้า โดยในทีมอาจมีพนักงานประจำของบริษัทนั้นๆ หรือ พนักงาน Outsource ของบริษัทอื่นส่วน การจ้างก็จะเป็นแบบสัญญาจ้างตามระยะเวลา อย่างเช่น 3 เดือน 6 เดือนหรือ 1 ปี เมื่อจบก็ย้ายไปทำ project อื่นกับบริษัทอื่นต่อไป ซึ่งการเข้างานก็ตามแต่ที่ บริษัทลูกค้าเป็นคนกำหนด บางที่อาจเข้าบริษัททุกวัน บางที่ Hybrid working หรือบางที่ เเบบ Work From Home ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทลูกค้า ดังนั้นต้องสอบถามข้อมูลกับบริษัทต้นสังกัดก่อนเสมอเพื่อให้ได้งานที่ตรงใจเรามากที่สุด

เพราะฉะนั้นจึงบอกได้ว่าการเป็น  Outsource นั้นหางานไม่ยากถ้าคุณเลือกฝากประวัติกับ บริษัท Outsource ที่ดี ดังนั้นถ้าใครอยากลองเปลี่ยนสายมาเป็น Outsource แต่กลัวจะหางานยากลองติดต่อ บริษัท แอดวานซ์ เพอซเนล แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด (APNS) หนึ่งใน บริษัท Outsource ที่ดีที่สุดในย่านสาทร ที่ บริการ IT Outsourcing เราทีมงาน เพื่อหาบริษัทที่ตรงใจและใกล้บ้านและงานแถวรถไฟฟ้า รวมทั้งคอยให้คำปรึกษา ไม่มีค่าใช้จ่าย เราพร้อมดูเเลคุณตั้งเเต่ต้นจนจบและการันตีการได้งานอย่างแน่นอน 

จ้าง IT Outsource กับ พนักงาน IT ประจำ หรือบริการบริษัท Outsource แบบไหนคุ้มกว่ากัน
จ้าง IT Outsource กับ IT ประจำ หรือบริษัท Outsource แบบไหนคุ้มกว่ากัน 03 Oct 2023
line_bubble